คปอ หรือ คณะกรรมการความปลอดภัย ตามที่กฎหมายกำหนดเป็นอย่างไร
วันนี้เรามีความรู้เกี่ยวกับการเริ่มต้นเป็นคปอมาฝากเพื่อนให้ได้รู้ถึงแนวทางที่ถูกต้อง
กฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๔๙ กําหนดให้นายจ้างของสถานประกอบกิจการประเภทที่กําหนด ที่มี ลูกจ้างตั้งแต่ ๕๐ คนขึ้นไป จัดให้มีคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน ของสถานประกอบกิจการ
เพื่อให้เกิดกลไกความร่วมมือระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ในการบริหารจัดการความปลอดภัยฯ โดยกฎกระทรวงดังกล่าวได้กําหนดวิธีการในการได้มาซึ่งคณะกรรมการความปลอดภัยฯ บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการความปลอดภัยฯ และหน้าที่ของนายจ้างที่มีต่อคณะกรรมการความปลอดภัยฯ ไว้ดังนี้
หน้าที่ของนายจ้างในการจัดให้มีคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทํางานของสถานประกอบกิจการ
กฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๔๙ กําหนดให้นายจ้างในสถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ ๕๐ คน ขึ้นไป จัดให้มีคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานภายใน ๓๐ วัน นับต้ังแต่วันที่มีลูกจ้างครบ ๕๐ คน ซึ่งกฎกระทรวงฉบับน้ีให้ใช้บังคับกับสถานประกอบกิจการประเภทต่างๆ ดังนี้
- การทําเหมืองแร่เหมืองหินกิจการปิโตรเลียมหรือปิโตรเคมี
- การทํา ผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อม ซ่อมบํารุง เก็บรักษา ปรับปรุง ตกแต่ง เสริมแต่ง ดัดแปลงแปรสภาพ ทําให้เสีย หรือทําลายซึ่งวัตถุหรือทรัพย์สิน รวมทั้งการต่อเรือ การให้กําเนิด แปลงและจ่ายไฟฟ้าหรือพลังงานอย่างอื่น
- การก่อสร้าง ต่อเติม ติดตั้ง ซ่อม ซ่อมบํารุง ดัดแปลง หรือรื้อถอนอาคาร สนามบิน ทางรถไฟทางรถราง ทางรถใต้ดิน ท่าเรือ อู่เรือ สะพานเทียบเรือ ทางน้ํา ถนน เขื่อน อุโมงค์ สะพาน ท่อระบาย ท่อน้ํา โทรเลข โทรศัพท์ ไฟฟ้า ก๊าซหรือประปา หรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ รวมทั้งการ เตรียมหรือวางรากฐานของการก่อสร้าง
- การขนส่งคนโดยสารหรือสินค้าโดยทางบกทางนํ้าทางอากาศและรวมท้ังการบรรทุกขนถ่ายสินค้า
- สถานีบริการหรือจําหน่ายน้ํามันเชื้อเพลิงหรือก๊าซ
- โรงแรม
- ห้างสรรพสินค้า
- สถานพยาบาล
- สถาบันทางการเงิน
- สถานตรวจทดสอบทางกายภาพ
- สถานบริการบันเทิง นันทนาการ หรือการกีฬา
- สถานปฏิบัติการทางเคมีหรือชีวภาพ
- สํานักงานที่ปฏิบัติงานสนับสนุนสถานประกอบกิจการตาม (๑) ถึง (๑๒)
- กิจการอื่นตามที่กระทรวงแรงงานประกาศกําหนด
คณะกรรมการความปลอดภัยมีหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดความปลอดภัยในองค์กรและเป็นกระบอกเสียงให้กับพนักงานในการร้องเรียนด้านต่างๆที่จะทำให้เกิดความเป็นอันตรายในการทำงาน หรือ โรคจากการทำงานเป็นต้น
คปอ หรือ คณะกรรมการความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
- พิจารณานโยบายและแผนงานด้านความปลอดภัยในการทำงาน รวมทั้งความปลอดภัยนอกงาน เพื่อป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ การประสบอันตราย การเจ็บป่วย หรือการเกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญอันเนื่องจากการทำงาน หรือความไม่ปลอดภัยในการทำงานเสนอต่อนายจ้าง
- รายงานและเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานและมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานต่อนายจ้าง เพื่อความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้าง ผู้รับเหมา และบุคคลภายนอกที่เข้ามาปฏิบัติงานหรือเข้ามาใช้บริการในสถานประกอบกิจการ
- ส่งเสริมสนับสนุน กิจกรรมด้านความปลอดภัยในการทำงานของสถาประกอบกิจการ
- พิจารณาข้อบังคับและคู่มือตามข้อ 3 รวมทั้งมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการทำงานของสถาประกอบกิจการเสนอต่อนายจ้าง
- สำรวจการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยในการทำงาน และตรวจสอบสถิติการประสบอันตรายที่เกิดขึ้นในสถานประกอบกิจการนั้น อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง
- พิจารณาโครงการหรือแผนการฝึกอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานรวมถึงโครงการหรือแผนการอบรมเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบในด้านความปลอดภัยของลูกจ้าง หัวหน้างาน ผู้บริหาร นายจ้าง และบุคลากรทุกระดับเพื่อเสนอความเห็นต่อนายจ้าง
- วางระบบการรายงานสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยให้เป็นหน้าที่ของลูกจ้างทุกคนทุกระดับต้องปฏิบัติ
- ติดตามผลความคืบหน้าเรื่องที่เสนอนายจ้าง
- รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี รวมทั้งระบุปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการเมื่อปฏิบัติหน้าที่ครบหนึ่งปี เพื่อเสนอต่อนายจ้าง
- ประเมิณผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในการทำงานของสถานประกอบกิจการ
- ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยในการทำงานอื่นตามที่นายจ้างมอบหมาย
การ อบรม คปอ ซึ่งการฝึกอบรมนี้จะต้องอบรมผ่านใต้สังกัดของบริษัทที่ตนเองอยู่เท่านั้นและต้องมีหนังสือแต่งตั้งว่าเป็นผู้บริหารในบริษัทนั้นจริงจึงจะสามารถขึ้นทะเบียนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายการ อบรม คปอ ไม่สามารถอบรมโดยไม่มีสังกัดได้
ในกรณีที่สถานประกอบกิจการใดมีกรรมการเพิ่มขึ้นมากกว่าจํานวนขั้นต่ําที่กฎหมายกําหนด ให้มี กรรมการผู้แทนนายจ้างระดับบังคับบัญชาและผู้แทนลูกจ้างเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่เท่ากัน
สําหรับสถานประกอบกิจการที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทํางานระดับเทคนิคข้ันสูง หรือ ระดับวิชาชีพ ให้นายจ้างคัดเลือกผู้แทนนายจ้างระดับบังคับบัญชาหนึ่งคนเป็นกรรมการ และให้ประธาน กรรมการเลือกกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนนายจ้างระดับบังคับบัญชาคนหนึ่งเป็นเลขานุการ